หน้าหลัก
About
Contact
บ้านของเรา
ข้อมูลพรรณ์ไม้
มะขาม
มะม่วง
มะพร้าว
เศษฐกิจพอเพียง
ดำนา
เกี่ยวข้าว
มะขาม
มะขามจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความหมายอื่น ดูที่
อำเภอมะขาม
มะขามมะขาม
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร
:
Plantae
หมวด:
Magnoliophyta
ชั้น:
Liliopsida
อันดับ:
Fabales
วงศ์:
Fabaceae
สกุล:
Tamarindus
สปีชีส์:T. indica
ชื่อทวินาม
Tamarindus indica
มะขาม
เป็นไม้เขตร้อน มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน
ทวีปแอฟริกา
แถบ
ประเทศซูดาน
ต่อมามีการนำเข้ามาใน
ประเทศแถบเขตร้อนของ
เอเชีย
และประเทศแถบ
ละตินอเมริกา
และในปัจจุบันมีมากใน
เม็กซิโก
ชื่อมะขามในภาคต่างๆ เรียก มะขามไทย
ภาคกลาง
ขาม
ภาคใต้
ตะลูบ
โคราช
ม่วงโคล้ง (กะเหรี่ยง-
กาญจนบุรี
) อำเปียล
เขมร
จังหวัดสุรินทร์
ใน
ภาษาอังกฤษ
ใช้คำว่า tamarind ซึ่งมาจาก
ภาษาอาหรับ
:تمر هندي (tamr hindī) แปลว่า Indian date
มะขามเป็นต้นไม้ประจำ
จังหวัดเพชรบูรณ์
มะขามในไทยมีสองชนิดคือมะขามเปรี้ยวและมะขามหวาน โดยมะขามหวานมีหลายพันธุ์เช่น พันธุ์น้ำผึ้ง อินทผลัม หมื่นจง สีทอง ในบางครั้งจะเรียกมะขามตามลักษณะของฝัก เช่น มะขามขี้แมว คือมะขามฝักกลม มะขามกระดาน คือมะขามฝักแบน มะขามข้อเดียวคือมะขามที่ฝักมีข้อเดียวออกกลมป้อม
เนื้อหา [
ซ่อน
]
1 ลักษณะเฉพาะ
2 ประโยชน์
2.1 อาหาร
2.2 สมุนไพร
2.3 อื่นๆ
3 คติความเชื่อ
4 ชื่อเรียกในภาษาอื่น ๆ
5 อ้างอิง
ลักษณะเฉพาะ[
แก้
]มะขามเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามากไม่มีหนาม เปลือกต้นขรุขระและหนา
สี
น้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ประกอบ ด้วยใบย่อย 10–15 คู่ แต่ละใบย่อยมีขนาดเล็ก กว้าง 2–5 มม. ยาว 1–2 ซม. ออกรวมกันเป็นช่อยาว 2–16 ซม. ดอก ออกตามปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดง/ม่วงแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และ/หรือหวาน ซึ่งฝักหนึ่ง ๆ จะมี/หุ้มเมล็ด 3–12 เมล็ด เมล็ดแก่จะแบนเป็นมัน และมีสีน้ำตาล
ใบของมะขามเป็นใบประกอบแบบขนนก (pinnately compound leaves) ใบย่อยแต่ละใบแยกออกจากก้าน 2 ข้างของแกนกลาง คล้ายขนนก ถ้าปลายสุดของใบจะเป็นใบย่อยเพียงใบเดียวเรียก แบบขนนกคี่ (odd pinnate) เช่น
กุหลาบ
อัญชัน
ก้ามปู
ถ้าสุดปลายใบมี 2 ใบ เรียกแบบขนนกคู่ (even pinnate) เช่น มะขาม
การปลูกมะขาม นิยมขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง ติดตาหรือต่อกิ่ง เพราะได้ผลเร็วและลดการกลายพันธุ์ ทำได้โดยเตรียมดินโดยขุดหลุมกว้าง ยาวและลึกด้านละ 60 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้าดินรองก้นหลุมเอากิ่งพันธุ์ลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม มะขามเมื่อลงดินแล้วจะโตเร็ว ควรใช้ไม้หลักพยุงไว้ให้แน่น และการบำรุงรักษาหลังเริ่มปลูก ควรเอาใจใส่ดาย
หญ้า
รอบต้น และรดน้ำทุกวัน ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดแม้แต่ดินเลว เช่นดินลูกรัง เจริญได้ดีในดินร่วนปนดินเหนียว ทนแล้งได้ดี ฤดูปลูกที่เหมาะสม คือต้นฤดูฝน ควรหาเศษหญ้าฟางคลุมโคนจนกว่าต้นจะแข็งแรง ควรฉีดยาป้องกันโรคราแป้งและแมลงพวกหนอนเจาะฝัก ด้วงเจาะเมล็ด ในระยะที่เป็นดอกอยู่
ประโยชน์[
แก้
]อาหาร[
แก้
]มะขามใช้ทำอาหารได้หลายส่วน ทั้งใบอ่อน ฝักอ่อน ฝักแก่ และเม็ดก็นำมาคั่วไก่โต้ง และ ไก้แจ้ รับประทานได้ มะขามเปียกที่ทำจากมะขามฝักแก่เป็นเครื่องปรุงรสเปรี้ยวที่สำคัญในอาหารไทย ทั้งแกงส้ม ต้มส้ม ไข่ลูกเขย น้ำปลาหวาน ยอดและใบมะขามอ่อนนำไปยำหรือใส่ในต้มเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว และยังใช้ทำขนมได้อีกหลายชนิด เช่น มะขามแช่อิ่ม มะขามแก้ว มะขามคลุก มะขามกวน เป็นต้น
ยอดอ่อนและฝักอ่อนมี
วิตามิน เอ
มาก มะขามเปียกรสเปรี้ยว ทำให้ชุ่มคอ ลดความร้อนของร่างกายได้ดี เนื้อในฝักมะขามที่แก่จัด เรียกว่า "มะขามเปียก" มะขามเปียกอุดมด้วยกรดอินทรีย์ อาทิ
กรดซิตริก
(Citric Acid)
กรดทาร์ทาริก
(Tartaric Acid) หรือ
กรดมาลิก
(Malic Acid) เป็นต้น มีคุณสมบัติชำระล้างความสกปรกรูขุมขน คราบไขมันบนผิวหนังได้ดี
สมุนไพร[
แก้
]
แก้อาการท้องผูกขี้ไม่ออก ใช้เนื้อฝักแก่หรือมะขามเปียก 10–20 ฝัก (หนักประมาณ 70–150 กรัม) จิ้มกับเกลือรับประทาน หรือใส่เกลือเติมน้ำคั้นดื่ม
แก้อาการท้องเดินกองทัพ ใช้เปลือกต้น ทั้งสดหรือแห้งประมาณ 1–2 กำมือ (15–30 กรัม) ต้มกับน้ำปูนใสหรือน้ำรับประทาน
ถ่ายพยาธิลำไส้หมา ใช้เมล็ดคั่วกะเทาะเปลือกเอาออกเนื้อในเมล็ดแช่น้ำเกลือจนนุ่ม รับประทานครั้งละ 20–30 เมล็ด เหมาะสำหรับถ่ายพยาธิไส้เดือน
แก้ไอขับเสมหะเสลดติดคอ ใช้เนื้อในฝักแก่หรือมะขามเปียกจิ้มเกลือรับประทาน